Fossil หนึ่งในผู้ผลิต smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะชื่อดัง เปิดตัวนาฬิกาไฮบริดรุ่นแรก ที่เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นนาฬิกาแบบอนาล็อกดั้งเดิมและเทคโนโลยีในสมาร์ทวอชท์ภายใต้ชื่อ Fossil HR. Fossil HR มาในรูปแบบตัวเรือนที่เป็นวงกลม โดยภายในหน้าปัดจะมีลักษณะเป็นวงกลมสองวงซ้อนกันอยู่. วงด้านนอกเป็นวงสำหรับใช้บอกเวลา โดยมีเข็มบอกชั่วโมงและนาทีอยู่ที่บริเวณตรงกลาง และขับเคลื่อด้วยพลังงานแบตเตอรี่. เปิดตัวด้วยราคา $195 เหรียญฯ(ประมาณ 5,900 บาท).
วงด้านในเป็นส่วนของ smartwatch
ที่มีหน้าจอเป็น monochrome แสดงผลเป็นขาว-ดำ สำหรับบอกข้อมูลต่างๆที่สมาร์ทวอชท์ควรมี อย่างเช่น activity tracking ติดตามกิจกรรมต่างๆของคุณทั้งจำนวนก้าวที่เดินและอัตราการเต้นของหัวใจ, weather information บอกสภาพอากาศ, การแจ้งเตือนต่างๆทั้งอีเมล์และโซเชี่ยลมีเดีย และอื่นๆ. Fossil HR มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 55 mAh ชาร์จเต็ม 0-100 เปอร์เซ็นต์ใน 60 นาที พร้อมเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานที่ให้คุณใช้งานได้นานกว่า 2 สัปดาห์.
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีข่าววลือออกมาว่า Google กำลังทำข้อตกลงซื้อเทคโนโลยีบางอย่างจาก Fossil ด้วยมูลค่ามหาศาลกว่าา 40 ล้านเหรียญฯ. ซึ่งก็ทำให้เกิดความสงสัยว่าใช่อันนี้หรือเปล่า. แต่ทาง Fossil ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่า นาฬิกาไฮบริดเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้อตกลงกับทาง Google แต่อย่างใด.
นายกัว ผิง ยังได้เน้นย้ำว่าหัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ ในการวางรากฐานให้กับอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในอนาคตหัวเว่ยจะมุ่งเน้นไปในด้านอุปกรณ์มือถือและเทคโนโลยีคลาวด์เป็นหลัก. โดยเขาได้อธิบายถึงโครงการที่หัวเว่ยได้วางเอาไว้เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาที่ต้องการจะใช้โอกาสจากเทคโนโลยี 5G+Xอย่างเต็มที่ ซึ่งหัวเว่ยได้ริเริ่มไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Huawei Developer Program 2.0และโครงการ Shining-Star Programซึ่งบริษัทได้ใช้เม็ดเงินลงทุนกับโปรแกรมHuawei Developer Program2.0 ไปแล้วกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายศักยภาพให้สามารถรองรับนักพัฒนาถึง 5 ล้านคนได้ และยังได้ใช้เงินลงทุนอีกกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในโปรแกรมShining-Star Programเพื่อดึงดูดแอปพลิเคชันระดับคุณภาพจำนวนมากเข้าสู่อีโคซิสเต็มของHuawei Mobile Services(HMS). โดยอีโคซิสเต็มHuawei Mobile Servicesจะกระตุ้นให้นักพัฒนาผสมผสานและปรับแต่งแอปพลิเคชันของพวกเขาให้มีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับสถานการณ์การใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ.
นาย กัว ผิง ยังกล่าวสรุปในตอนท้ายว่า“5G+Xเปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งยุคใหม่ ราวกับการมาถึงของไฟฟ้า และจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาเราเข้าสู่โลกอัจฉริยะ ซึ่งหัวเว่ยเองก็มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน5G+Xและก้าวสู่ยุคอัจฉริยะอย่างเต็มตัว”.
Youtube Premium สมัครเลย ใช้ฟรี 2 เดือน คุ้มมาก เดือนละ 159 บาท
Youtube Premium – เชื่อว่าหลายคนดู Youtube ประสบปัญหาหัวร้อนกับโฆษณาก่อนเริ่มคลิป 5 วินาทีช่างยาวนานเมื่อรอคอยกด Skip มิซ้ำ ยังมีโฆษณาโผล่มากลางคลิปขณะกำลังดูอย่างเมามันติดพัน ไม่รวมถึงการเปิดเล่นเพลงแบบรันคลิปต่อคลิปที่ต้องสะดุดเพราะโฆษณาคั่น
ล่าสุด Youtube ได้ออกแพคเกจ Youtube Premium เพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ราคาเริ่มต้นเพียง 159 บาทต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 2 เดือน แต่คุ้มกว่านั้นคือ สมัครแพคเกจสมาชิกสำหรับครอบครัว ทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน จากนั้นจะเป็น 239 บาทต่อเดือนเพิ่มสมาชิกในครอบครัว (อายุ 13 ขึ้นไป) ได้สูงสุด 5 คน
Youtube Premium ชูฟีเจอร์เด่น ดูวิดีโอแบบไม่มีโฆษณา สามารถให้วิดีโอเล่นต่อขณะใช้แอปอื่นๆ หรือเมื่อล็อกหน้าจอ สามารถดาวน์โหลดวิดีโอไว้ดูแบบออฟไลน์ ย้อนหลังได้ทุกที่ทุกเวลา และเอาใจคอเพลง จัด YouTube Music Premium ฟังเพลงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด เป็นแบบออฟไลน์ได้ด้วย
Xiaomi เปิดตัว smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของทางค่ายอย่างเป็นทางการในชื่อ Mi Watch มาพร้อมฟีเจอร์เด่นๆมากมาย. โดยสมาร์ทวอชต์รุ่นแรกของ Xiaomi ครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ “small phone on your wrist” หรือ “โทรศัพท์จิ๋วบนข้อมือคุณ”
Mi Watch มาพร้อมหน้าจอขนาด 1.78 นิ้ว แบบ AMOLED พร้อมฟีเจอร์ always-on ตัวเรือนทำมาจากเซรามิคไซส์ 44 มิลลิเมตร. ปุ่มกดหนึ่งปุ่มและเม็ดมะยมอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ส่วนด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับลำโพงและไมโครโฟน. รองรับ Bluetooth, NFC และ eSIM.
Mi Watch รันบนระบบปฏิบัติการ Google Wear OS ครอบทับด้วย Xiaomi MIUI พร้อมติดตั้ง app บิวท์อินมาให้ในเครื่องมากกว่า 40 แอ้พ พร้อมแอ้พสำหรับคนรักสุขภาพแบบครบครัน
Mi Watch ใช้ขุมพลังเป็น Snapdragon Wear 3100 รองรับ 4G มาพร้อม RAM 1GB และหน่วยความจำ 8GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 570mAh ทที่เรียกว่าเป็นขนาดความจุแบตดเตอรี่ที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยใส่มาใน smartwatch เลยก็ว่าได้ โดยทาง Xiaomi เคลมว่าสามารถใช้งานแบบเปิด 4G ได้นานกว่า 36 ชั่วโมง.
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น